๑๐/๐๑/๒๕๕๐

สัญญาว่าจ้างรักษาความปลอดภัย

สัญญาเลขที่ S 9999999

สัญญาว่าจ้างรักษาความปลอดภัย
ทำที่บริษัท เอ.ซี.เอส. อินเตอร์ การ์ด จำกัด



หนังสือสัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างบริษัท...............................................จำกัด โดย ตั้งอยู่เลขที่ ...................................................................................................... กรุงเทพมหานคร 10110 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง”ฝ่ายหนึ่ง กับบริษัท เอ.ซี.เอส. อินเตอร์ การ์ด จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 29/7 หมู่ 1 ถนนศรีนครินทร์ ต. บางแก้ว อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ 10540 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากัน ดังมีข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1 การทำงานที่ว่าจ้างและคู่สัญญา
“ผู้ว่าจ้าง”ตกลงว่าจ้าง และ “ผู้รับจ้าง”ตกลงรับจ้างทำการรักษาความปลอดภัยให้แก่บรรดาทรัพย์สินของ “ผู้ว่าจ้าง” ซึ่งอยู่ที่บริษัท................................................................................................ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตของงานที่ว่าจ้าง, ค่าจ้าง, หน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายสัญญานี้ และถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้เพื่อประโยชน์ “ผู้รับจ้าง”ตกลง และมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ตามข้อ 5 ของสัญญานี้ได้โดยตรงจาก “ผู้รับจ้าง”

ข้อ 2 อายุสัญญา
สัญญาฉบับนี้มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี และเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ..... เดือน................ 2549 สิ้นสุดลงวันที่ .... เดือน................ 2550 และเมื่อสัญญานี้ครบกำหนด หากไม่มีฝ่ายใดบอกเลิกสัญญา ให้ถือว่าสัญญาฉบับนี้มีผลใช้บังคับต่อไปอีก 1 ปี ทุกครั้งไป ยกเว้นฝ่ายหนึ่งจะแจ้งเป็นหนังสือว่าไม่ประสงค์จะ ต่อสัญญาให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ ล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่ง เดือนก่อนครบกำหนดเวลา

ข้อ 3 การชำระค่าจ้าง
“ผู้ว่าจ้าง”ตกลงชำระและ “ผู้รับจ้าง”ตกลงยินยอมรับชำระค่าจ้างในอัตราเดือนละ ................................ บาท
( .................................บาทถ้วน ) โดยมีเงื่อนไขรายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายสัญญานี้ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 1 ข้างต้น โดยผู้รับจ้างจะส่งใบวางบิลมาให้ “ผู้ว่าจ้าง”ภายในระหว่างวันที่ 25 ของเดือนที่ให้บริการ และ “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องชำระเงินค่าจ้างให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป

อนึ่ง เงินค่าจ้างตามสัญญานี้ “ผู้ว่าจ้าง”จะใช้สิทธิยึดหน่วงหรือถ่วงเวลาไว้เกินกำหนดหรือจะนำไปหักกลบลบหนี้อย่างอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความรับยินยอมจาก “ผู้รับจ้าง”เป็นหนังสือแล้วเท่านั้น

ข้อ 4 ข้อผูกพันของผู้ว่าจ้าง
4.1 เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อประโยชน์ของ“ผู้ว่าจ้าง” หรือลูกค้าของ “ผู้ว่าจ้าง”ที่เข้ามาใช้บริการ และ/หรือผู้ที่เข้ามาทำการติดต่อกับ “ผู้ว่าจ้าง” “ผู้ว่าจ้าง”ต้องยินยอมให้ “ผู้รับจ้าง”มีสิทธิทำการตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะและตรวจสอบทรัพย์สินที่ผ่านเข้า – ออกได้ และ “ผู้ว่าจ้าง”ต้องไม่ปกปิดข้อเท็จจริงใดๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความปลอดภัยแก่ “ผู้รับจ้าง”

4.2 “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องไม่มอบหมายงานอื่นใดนอกเหนือจากงานในสัญญานี้ให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยของ “ผู้รับจ้าง” อันเป็นเหตุให้การปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพนักงานนั้นเกิดความบกพร่องขึ้นได้

4.3 การเพิ่มหรือลดอัตรากำลังของพนักงานรักษาความปลอดภัยหรือการเปลี่ยนแปลงจุดรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามความเหมาะสมกับสภาพกิจการ สถานที่ ที่ตั้งและลักษณะของทรัพย์สินของ “ผู้ว่าจ้าง” ย่อมกระทำได้ แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ ส่วนเงื่อนไขการจ้างให้ถือตามข้อตกลงแห่งสัญญานี้โดยอนุโลม

4.4 ในการที่“ผู้รับจ้าง”ได้ตรวจและพิจารณาเห็นว่า บริเวณที่ต้องรักษาความปลอดภัยจุดใดอยู่ในลักษณะที่ล่อแหลม ไม่ปลอดภัย เช่น มีแสงสว่างไม่เพียงพอ, รั้วหรือกำแพงชำรุด, กลอนประตูชำรุดหรือลักษณะโดยประการอื่นใด อันอาจจะเป็นช่องทางให้คนร้ายใช้เป็นการหลบซ่อน, กำบัง, แอบแฝงหรือซ่อนเร้นเพื่อทำโจรกรรม และเมื่อผู้รับจ้างได้แจ้งเป็นหนังสือให้ “ผู้ว่าจ้าง”จัดซ่อมแซม, แก้ไขหรือปรับปรุงให้ดีขึ้นเกินกว่า 2 ครั้งแล้ว แต่ทางผู้ว่าจ้างมิได้ดำเนินการตามที่“ผู้รับจ้าง”ได้แจ้งดังกล่าว หากมีเหตุโจรกรรมเกิดขึ้นในจุดที่ไม่ปลอดภัยนั้นๆ ในกรณีเช่นนี้ถือว่า ความเสียหายหรือสูญหายนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัย

4.5 กรณีที่ทรัพย์สินของ “ผู้ว่าจ้าง”เกิดการเสียหายหรือสูญหาย และการเสียหายหรือสูญหายดังกล่าวอยู่ในขอบข่ายความรับผิดชอบของ “ผู้รับจ้าง”ตามสัญญานี้ “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

4.5.1 “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องแจ้งให้ “ผู้รับจ้าง”ทราบโดยด่วนที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง นับจากทราบเหตุร้ายนั้น จะแจ้งด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือก็ได้ แต่ถ้าแจ้งด้วยวาจาจะต้องทำเป็นหนังสือยืนยันตามไปภายหลัง ไม่เกินกว่า 3 วันนับแต่วันที่แจ้งด้วยวาจา พร้อมทั้งแจ้งค่าเสียหายที่แท้จริง (หากยังมิทราบแน่ชัด ให้ประมาณค่าเสียหายได้)

4.5.2 “ผู้ว่าจ้าง”ต้องแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุหลังจากที่ทราบการเสียหายหรือสูญหายภายใน 24 ชั่วโมง นับจากทราบเหตุร้ายนั้น และยินยอมให้ “ผู้รับจ้าง”มีส่วนรับรู้ในการร้องทุกข์ต่อพนักงาน เพื่อร่วมในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและเร่งรัดคดี

4.5.3 “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องไม่เคลื่อนย้ายสิ่งของ และ/หรือทำลายหรือลบร่องรอยใดๆ ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และ “ผู้รับจ้าง”จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ของฝ่าย “ผู้รับจ้าง”ออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายใน 24 ชั่วโมง นับจากที่ได้รับแจ้งจาก “ผู้ว่าจ้าง” ในการที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนตรวจค้นบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือที่อยู่ในบริเวณของ “ผู้ว่าจ้าง”

4.5.4 ในการเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายหรือสูญหายใดๆ จาก “ผู้รับจ้าง” “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องแนบหลักฐานสำเนาการแจ้งความและหลักฐานการได้มาและราคาของทรัพย์สินที่สูญหายนั้น (ถ้ามี)หรือใบเสร็จค่าซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายหรือสูญหายมาพร้อมกับหนังสือเรียกร้องค่าเสียหายหรือสูญหายที่เกิดขึ้นกับ“ผู้รับจ้าง” เพื่อประกอบการพิจารณา

ข้อ 5. ข้อผูกพันของผู้รับจ้าง
5.1 “ผู้รับจ้าง”จะต้องจัดบุคคลที่มีคุณสมบัติและความประพฤติที่เหมะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัย และแต่งกายให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามที่กำหนดไว้ตลอดจนจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ประจำตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วยค่าใช้จ่ายของ“ผู้รับจ้าง”เองทั้งสิ้นเว้นแต่เครื่องมือดับเพลิง เครื่องมืออิเล็คโทรนิค อาวุธปืน และอื่นๆที่ต้องใช้เป็นพิเศษ ตามที่ “ผู้ว่าจ้าง”ต้องการ ในการนี้ “ผู้ว่าจ้าง”จะต้องเป็นผู้จัดหาให้ตามความจำเป็น

5.2 “ผู้รับจ้าง”ต้องควบคุมบังคับบัญชาให้พนักงานรักษาความปลอดภัยปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับและคำสั่งโดยชอบของ “ผู้ว่าจ้าง”เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่กำหนดไว้หรือที่จะกำหนดต่อไป และ “ผู้รับจ้าง”จะต้องดำเนินการแก้ไขหรือเปลี่ยนตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บกพร่องต่อหน้าที่ หรือไม่เหมาะสมที่จะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดีภายในเวลา 24 ชั่งโมง นับจากเวลาที่ได้รับแจ้งจาก “ผู้ว่าจ้าง” อีกทั้งผู้รับจ้างจะต้องจัดพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้กับผู้ว่าจ้างเสริมแทนให้ตามสัญญาที่ระบุไว้โดยด่วนด้วย

5.3 “ผู้รับจ้าง” ต้องรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายของทรัพย์สิน ( ยกเว้น เงิน ทอง อัญมณี รถจักรยานจักรยานยนต์ รถยนต์ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายภาพ วัตถุโบราณ ศิลปวัตถุ เหรียญ พระเครื่อง พระบูชา
ต้นฉบับเอกสาร โฉนดแบบแปลน ภาพเขียน แบบ หรือแบบพิมพ์ หลักประกันหนี้สิน เงินตรา ธนบัตรบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม เช็ค นาฬิกา สมุดบัญชีหรือเอกสารสำคัญต่างๆเป็นต้น ) ที่เป็นของหรืออยู่ในความ ดูแลของ “ผู้ว่าจ้าง”เนื่องจากการโจรกรรม ซึ่งปรากฏร่องรอยการงัดแงะ หรือทำลายเครื่องกีด
ขวางและมีหลักฐานพิสูจน์ได้เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นด้วยความบกพร่องหรือความทุจริตของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ “ผู้รับจ้าง”ขณะปฏิบัติ หน้าที่ตามสัญญานี้ เว้นแต่ ความเสียหายหรือสูญหายเกิดขึ้นนั้นไม่อยู่ในวิสัยที่ “ผู้รับจ้าง”จะป้องกัน ได้อย่างมีเหตุผล เช่น การปล้น อัคคีภัย จราจล ภัยธรรมชาติ และ / หรือการทุจริตและความประมาทเลินเล่อของฝ่าย “ผู้ว่าจ้าง” หรือ ลูกจ้างหรือบุคคลในสังกัดของ

5.4 การชดใช้ค่าเสียหาย “ผู้รับจ้าง”จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ “ผู้ว่าจ้าง”ในกรณีที่ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงและอยู่ในความรับผิดชอบของ “ผู้รับจ้าง”ตามสัญญานี้ โดยจะจ่ายให้ตามราคาที่แท้จริงของทรัพย์สินที่สูญหาย หักด้วยค่าเสื่อมราคาแห่งอายุการใช้งานตามกฎหมาย และอยู่ในวงเงินไม่เกิน ................................. บาท ( .........................บาทถ้วน) ต่อการเสียหายหรือสูญหายหนึ่งครั้ง และผู้รับจ้างจะชดใช้ราคาทรัพย์สินให้แก่ผู้ว่าจ้าง ภายในระยะเวลา 45 วัน นับแต่วันที่ทรัพย์สินดังกล่าวเสียหายหรือสูญหาย และ “ผู้รับจ้าง”ติดตามแล้วแต่ไม่ได้ทรัพย์สินนั้นกลับคืนไปให้แก่ “ผู้ว่าจ้าง”
ข้อ 6. การเลิกสัญญา
ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง ให้อีกฝ่ายหนึ่งบอกเลิกสัญญาได้ โดยการบอกกล่าวให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน


สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีความถูกต้องตรงกันทุกประการ โดย “ผู้ว่าจ้าง”และ “ผู้รับจ้าง”ถือไว้ฝ่ายละฉบับ และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญานี้โดยตลอดแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามความประสงค์จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและได้ยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ...............................ผู้ว่าจ้าง ลงชื่อ....................ผู้รับจ้าง
( ................................) ( ......................................)
บริษัท ............................... จำกัด บริษัท เอ.ซี.เอส. อินเตอร์ การ์ด จำกัด




ลงชื่อ........................พยาน ลงชื่อ................................ผู้รับจ้าง
( ................................) ( ............................ )
บริษัท .........................จำกัด บริษัท เอ.ซี.เอส. อินเตอร์ การ์ด จำกัด